หลายคนมักมีความเชื่อผิดๆ ว่า “หน้าฝนไม่มีแสงแดดเลยไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด” ต้องขอบอกก่อนเลยว่าผิดมาก!!
ก็จริงอยู่ที่หน้าฝนมีปริมาณเมฆปกคลุมหนาแน่นจนเราอาจจะเห็นว่าไม่มีแสงแดดเล็ดรอดออกมา แต่จริงๆแล้วเมฆไม่สามารถกันรังสีได้ที่มาจากดวงอาทิตย์ได้ ส่งผลให้รังสีเหล่านั้นตกถึงสู่โลกและส่งผลกระทบต่อผิวเราโดยตรง
สิ่งที่มากับแสงแดดคืออะไร?
คำตอบ คือ รังสี UV นั่นเอง เจ้ารังสีตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของแสงที่สามารถผ่านมาสู่พื้นโลกได้ เนื่องจากความยาวคลื่นมันค่อนข้างสั้น ทำให้มันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่านั่นเอง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เราไม่ตระหนักมัน
โดยเจ้ารังสีตัวนี้ สามารถแบ่งชนิดตามความยาวคลื่นได้เป็น 3 ชนิด คือ UVA และ UVB ซึ่งสามารถทำร้ายผิวพวกเราได้ แต่ UVC ไม่สามารถผ่านลงมาจากชั้นบรรยากาศ
UVA เป็นรังสีที่ตกกระทบมายังโลกมาถึง 90% สามารถทะลุสู่ชั้นผิวที่ลึกกว่ารังสี UVB สามารถทะลุกระจกและแก้วได้ เป็นสาเหตุหลักสำคัญของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ และ มะเร็ง จึงสามารถพูดได้ว่ารังสี UVA สามารถเพิ่มอายุให้กับผิวคุณได้
การป้องกันรังสี UVA สามารถดูจากผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดที่มี PA , PA+ , PA++ , PA+++ โดยการคำนวณ คำว่า “+” มีความหมายเท่ากับสองเท่า ดังนั้น PA+++ หมายความว่า สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 2x2x2 = 8 เท่านั่นเอง
UVB เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดผิวไหม้ ผิวแดง ริ้วรอย อาจถึงขั้นมะเร็งได้เช่นกัน โดยส่วนมากจะทำลายบริเวณผิวหนังกำพร้า (Epidermis) ไม่สามารถทะลุกระจกได้ ความเข้มของรังสี UVB จะขึ้นอยู่กับ ฤดูกาล , ตำแหน่งที่ตั้ง และ เวลาของวัน สามารถป้องกันได้ด้วยครีมกันแดดทั่วไปที่มีค่า SPF นั่นเอง
SPF เลือกจากอะไร?
เลือกจากการใช้งาน หากออกแดดมากก็ควรใช้ SPF สูงๆ (30-50) นั่นเอง
หากโดนแดดน้อย SPF 15 ก็เพียงพอละจ้า
ดังนั้นทุกคนอย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกไปทำภารกิจกันข้างนอก แม้จะเป็นหน้าฝนก็เถอะ เพื่อสุขภาพผิวที่ดีของเรา!
Source:
https://www.moyoway.com/spf.html#gallery[pageGallery]/0/
https://www.skincancer.org/prevention/uva-and-uvb
https://muyaa.wordpress.com
วันที่: 07-12-2024
|
|
|